Ras's Blog

Archive for the ‘Uncategorized’ Category

กลับมาแล้ว กับคอนเสิร์ตของ SCG หลังจากเลื่อนการแสดงมาร่วม 2 ปี ศิลปินที่มายังคงครบทุกคน การชมคอนเสิร์ตในยุคโควิด คอนเสิร์ตนี้ยังคงเคร่งครัด ต้องส่งผลตรวจ ATK ก่อนเข้าชมเพื่อรับบัตรคอนเสิร์ตทาง online น่าจะเป็นคอนเสิร์ตสุดท้ายที่เคร่งของปีนี้แล้ว

เปิดคอนเสิร์ตกันด้วย มาเรียม เบน และ โต๋แห่ง B5 มากันทั้งเพลงเดี่ยว และ เพลงรวม ทั้งเพลงของตัวเองและเพลงคนอื่น พูดคุย แซวคนดู แซวตัวเองกันตามระเบียบ อยากดูคอนเสิร์ต B5 อีกจัง

ตามมาด้วย รัดเกล้า กับเพลง มหัศจรรย์แห่งรัก ไม่ได้ฟังสดๆ มานาน และเพลงเอาใจวัยผู้ใหญ่ของ SCG

มาต่อกับวงดึกดำบรรพ์ สมาชิกประกอบไปด้วย ชรัส ปั่น และ ตุ่น พนเทพ มานั่งเล่นกันสบายๆ กับเพลง Cover เพลงตัวเองบ้าง เพลงคนอื่นบ้าง งานนี้พี่ปั่นร้องเพลงหน้าเครียดเชียว ส่วนพี่แต๋ม ก็ชิวๆ ตามสไตล์

ครั้งแรกกับการฟังร้องสด พี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ เสียงยังแน่นอยู่ คุยเก่งมากก เท่าที่ฟัง ก็น่าจะเป็นลิสต์คอนเสิร์ตที่คุ้นเคยกันของแฟนเพลง ที่แน่ๆ แสนรัก ก็มา มีโชว์เพลงใหม่ที่แต่งเพื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เล่นหลายรอบเลย เพราะจำเนื้อไม่ได้ ใหม่เกิน

ปิดท้ายด้วย ทาทา ร้อง เต้น เต็มที่ ณเดชน์ มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษในเพลงเร็ว โต๋ เบน และ มาเรียม ก็มาร่วมแจมในช่วงเพลงเต้นด้วย ทาทาบอกขอบคุณ SCG ที่ยังคงเลือกทาทา แม้เวลาจะผ่านมาเกือบ 2 ปี และรอทาทาที่ไม่สบาย เป็นโควิดอยู่ร่วมเดือน เพิ่งหายก่อนจะเล่นคอนเสิร์ตประมาณ 1 สัปดาห์ ขอบคุณที่เชื่อใจทาทา

โควิดมีผลต่อการแสดงสดมากจริงๆ แผน 1 แผน 2 ตอนนี้เริ่มไม่พอ แผน 3 แผน 4 ก็ต้องมาก ถ้าศิลปินหลักป่วยจะทำยังไง เลื่อนสถานเดียว ล่าสุด คอนเสิร์ตโอ๊ต ป๊อบ เชิญบิวกิ้นมาร่วมแจม ปรากฏ ขึ้น 2 ขีดก่อนวันเล่นคอนเสิร์ต ต้องหาคนแทน ได้ นนท์ ธนนท์ มาช่วยเสริม หวังว่าคอนเสิร์ตอื่นๆ จะเอาตัวรอดกันได้นะ

คอนเสิร์ต SCG เป็นคอนเสิร์ตที่มีผู้ใหญ่เป็นแขกประจำ งานนี้ ถือว่า ศิลปินเด็กสุดละ ปกติต้องมีนักร้องยุคสุนทราภรณ์มาร่วมแจม และ ต้องมี อาต้อย เศรษฐา ศิระฉายา มาร่วมเซอร์ไพรส์ตลอด คือ ต่อให้ไม่ได้อยู่ในโปสเตอร์ ก็ต้องมีมาแจม แต่มาปีนี้ ไม่มีอีกแล้ว อาต้อยจากไปแล้วด้วยโรคมะเร็ง เช่นเดียวกันกับแม่ของเรา ผู้เป็นคนดูประจำของคอนเสิร์ตนี้ ก็จากไปเมื่อต้นปีเช่นกัน นักร้องก็จาก ผู้ชมก็จาก เปลี่ยนรุ่นกันไป

วันเสาร์ที่ 30 ก.ค. 2560 17.00 น. พารากอนฮอลล์

สมาชิก พี่กุ้ง เกด เพื่อนเกด อม

ทริปเกือบด่วน มีเหตุให้ต้องไปทำธุระที่เชียงใหม่ ก็เลยวางแผนไปเดินเล่นในตัวเมืองด้วย เที่ยวเชียงใหม่แบบไม่ไปดอย ไม่มีรถส่วนตัว กับพี่สาว

ตอนแรกตั้งใจว่าจะใช้เครดิตซื้อตั๋วของแอร์เอเชีย แต่เห็นราคาแล้วทำใจไม่ได้ สุดท้ายได้ฟัง Thai Lion Air กับ โปรโมชั่น ไปกลับ กทม – เชียงใหม่ คนละ 2400 บาท

19 มิ.ย. 65

เราออกเดินทางกันตอนสายๆ ถึงเชียงใหม่ตอนเที่ยงๆ นั่งบริการรถแท็กซี่สนามบิน คันละ 150 เข้าตัวเมือง ซึ่งห่างไปเพียงไม่กี่กิโล ส่วนการเดินทางสาธารณะอื่นๆ ไม่มีแล้ว ปิดไปหมดช่วงโควิด มุ่งตรงไปโรงแรม Pastell Oldtown Chiang Mai จองไว้ 2 คืน จ่ายเรียบร้อยแล้ว ที่พักน่ารักๆ ขนาดกะทัดรัด ในราคา 2 คืน 2472 บาท รวมอาหารเช้า เห็นว่าเป็นโรงแรมที่สร้างขึ้นแล้วเจอโควิดพอดี ข้อมูลจากแท็กซี่นะ

เดินไปทานอาหารกลางวันที่ร้าน เอสพีไก่ย่าง ร้านที่อยู่ในมิชิลินไกด์ จากนั้นก็เริ่มเดินเที่ยววัด วัดพระสิงห์ วัดใหญ่ที่ใครมาก็มักจะต้องมา รถรางบริการเที่ยววัดหลักๆ ยังอยู่นะ แต่เราไม่ได้ใช้บริการในคราวนี้ บ่ายสองนิดๆ แล้ว เรารีบเดินกลับไปโรงแรมไปดูวอลเลย์ ไทย-อเมริกา รายการ VNL 2022 555 ก็ถือเป็นช่วงหลบร้อนด้วย จบรายการแข่งขัน มุ่งไป วัดพวกหงษ์ วัดปราสาท และ วัดเชียงมั่น ระหว่างทางก็โทรหาเพื่อนที่อยู่เชียงใหม่ นัดหมายทานมื้อเย็นกันจ้า แวบเดินถนนคนเดินท่าแพ สั้นๆ ประตูท่าแพ
ระยะทางเดินวันนี้ 3.4 กิโล

ทานมื้อเย็นกันที่ Salad terrace รพ สวนดอกไม้ เพื่อนกลุ่มนี้ เราเจอเพื่อนที่เชียงใหม่บ่อยกว่า เพื่อนที่กรุงเทพอีกนะ

20 มิ.ย. 65

ช่วงเช้าทำธุระ จากนั้นมาทานข้าวที่ bird’s nest จะเลี้ยงนิวที่มาส่ง นิวแย่งเลี้ยงซะงั้น อาหารสุขภาพมากๆ ค่ะ นั่งแช่อยู่สักพัก ขบวนการเดินยาวๆ ก็เริ่มขึ้น วัดโลกโมฬี วัดหลัก ริมคูเมือง ทำสังฆทานระบุให้แม่ พระท่านสวด อวยพระเป็นภาษาเหนือเลย ต่อด้วย วัดราชวัตรมณเฑียร โบสถ์ปิด มีหลวงพ่อทันใจองค์ใหญ่อยู่ด้านนอก ต่อด้วย วัดควรค่าม้า โบสถ์ปิด วัดหม้อคำตวง วัดแสนเมืองมาหลวง โบสถ์ปิด แต่อาคารอลังการ สีสันสดใส

พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ได้แก่ พญามังราย พญางำเมือง พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
วัดอินทขีลสะดือเมือง โบสถ์ครอบองค์พระเดิม สร้างเป็นโบสถ์ไม้แบบล้านนา วัดดวงดี วัดเล็กๆ ในบริเวณนั้น ประตูโซ่กันนะ แวบวัดพันเตา วัดเจดีย์หลวง โบสถ์บูรณะอยู่ ปิดท้ายด้วย วัดพระเม็งราย

ระยะทางการเดินวันนี้ 3.9 กิโล

แวบมาลงแช่น้ำก่อนออกไปทานมื้อเย็นวันนี้ที่ร้านข้าวต้ม แถวที่พัก ฝนตกพอดีเลย


21 มิ.ย. 65

วันนี้ตื่นสายหน่อย ออกไปทานอาหารเช้าตอน 9.00 น. จากนั้นไปวัดศรีสุพรรณ วันนี้มีงานเป็นวันมัคคุเทศก์ มาทำบุญกัน มีการแสดง มีพิธีสืบชะตา นั่งร่วมทำกับเค้าด้วยเลย เจ้าหน้าที่วัดเชิญชวนให้จุดเทียนแดงถวายท้าวเวชสุวรรณ ตั้งใจสวดมนต์ ทำสมาธิตอนกำลังทำพิธี เลยอยู่วัดนี้ยาว กว่าจะได้ออกก็เกือบ 11 โมงกว่า นั่งรถแดง คนละ 20 ย่นไป 550 เมตร จะนั่งทำไมนะ เดินมาเรื่อยๆ ก็ลดระยะทางไปเยอะละ วัดเจ็ดลิน มีตัวหมี หูตา 4 คู่ ว่ากันว่า ถ่ายมาเป็นก้อนทอง จากภาพก่อนๆต้องมีบัวใบใหญ่ ปัจจุบันเป็นผักตบ วัดพันแหวน โบสถ์ปิด ตั้งใจมากินขนมจีนป้าป้อมก็ปิด เลยมากินก๋วยเตี๋ยวร้านบุปผาแทน ปิดท้ายด้วยวันหมื่นเงินกอง ใกล้ที่พัก แม้จะไม่กี่วัด แต่ระยะทางเดินก็ 3 กิโลกว่าๆ เช่นกัน

กลับที่พัก บ่ายสี่สิบได้ เช็คเอาท์บ่ายสอง นั่งแช่ อ่านมือถือกันไป บ่ายสามเรียกรถด้วย In driver ได้รถ -1 นาที 63 บาท 555 มาทริปนี้ เลยได้รู้จักแอป In driver เหมาะในการเดินทางระยะไม่ไกล ที่สุดคือ เดินทางไปสนามบิน สามารถต่อรองราคากันได้ แต่ยุคนี้น้ำมันแพง ปุ่มลดราคาเลยกดไม่ได้ มีแต่เพิ่ม 555 ความสนุกคือ พอกดจุดหมายแล้ว คนขับเด้งขึ้นมาเพียบเลย มองแทบไม่ทัน


ถึงสนามบิน ทาน burger king ใช้สิทธิทรูแบลคการ์ด ถึงกทม รถตู้ รร มารับ ขากลับฝนตกรถติด ใช้เวลาจากสนามบินกลับบ้านพอกับบิน เชียงใหม่ – กทมเลย เป็นอันจบทริป วัด วัด วัด จริงๆ สามารถคั่นด้วยคาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ได้นะ แต่เราไม่ได้เลือก

ปีนี้ก็ยังคงมาดำน้ำ ช่วงนี้ถือว่า ดำน้ำถี่ทีเดียว ปีละครั้ง ถือว่าบ่อยมาก ทุกที 3-5 ปีครั้ง อย่างว่า สถานการณ์โควิด ออกนอกประเทศไม่ได้ ก็มาดำน้ำแทนละกัน

27/04/65

เดินทางด้วยสายการบินไทยสไมล์ วันที่ 27/04/65 ถึงตัวเมืองภูเก็ต นั่งรถรับส่งสนามบินที่จองไว้ล่วงหน้า มีแวะทานข้าวที่ร้าน บ้านอาจ้อ แถวสนามบิน อาหารท้องถิ่น ทำร้านสวยงาม เป็นพิพิธภัณฑ์ด้วย ที่นี่เคยเป็นบ้านพักตากอากาศของตระกูลหงษ์หยก เราเดินชมบ้านกันอย่างยาวนานและชิวมาก จนเจ้าของบ้านต้องโผล่มาดูว่า ยังอยู่กันอีกเหรอ ค่าเข้านำไปสมทบทุนดูแลเด็กๆ ในมูลนิธิ

บ่ายๆ ก็มุ่งเข้าตัวเมืองไปเช็คอินที่ Xinlor house โรงแรมในตึกแถวเดิมในย่านใกล้เมืองเก่า ห้องพักค่อนข้างน่ารัก ตกแต่งด้วยต้นไม้ มีแต่บันได ห้องของเราคือห้องที่ดีที่สุด มีโซนห้องนอนกับห้องนั่งเล่น และ มีระเบียงที่มีอ่างจากุซี่ให้แช่เล่นด้วย มองออกไปเห็นผู้คนบ้านตรงข้ามได้ ก็ต้องสวมชุดว่ายน้ำแช่น้ำเล่น ใข้ให้คุ้ม ก็แช่ทั้งเย็น ทั้งกลางคืนจ้า

ยามเย็นก็ไปเดินเล่น เจอกับ ญาติที่นัดทานข้าวเย็นกันไว้ บ้านอยู่ตรงข้ามกันที่กทม มาภูเก็ต ก็ป๊ะกันโดยบังเอิญก่อนเวลานัดอีกจ้า เดินเล่นกันไปเรื่อยๆ ก่อนไปแวะทานไอติมที่ร้านฮิปๆ มีโอ้วเอ้วเป็นส่วนผสมด้วย แต่น่าจะไม่ได้สั่ง เรานั่งทานกับหลานๆ และ ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นเจ้ามือจ่ายให้ กราบงามๆ ขณะที่สาวๆ เดินไปซื้อเสื้อผ้าที่ร้านที่พี่ๆ เค้าคุ้นเคยกัน ทานเสร็จเราก็ตามไปที่ร้าน ไปนั่งเล่นกับกระต่ายขนนุ่ม อยู่ที่ร้านนี้กันนานมาก

จนมีคนชวนไปเดินเล่นถ่ายรูป ก็ตามออกไปด้วย ไปถ่ายรูปตรงทางข้ามม้าลายแถวตึกสแตนดาร์ด ใกล้ๆ ก็มีธนาคารไทยพาณิชย์กำลังสร้างอยู๋ เป็นตึกทรงโบราณสีขาว คาดว่า จะเป็นอีก landmark ในอนาคต สมควรแก่เวลาก็เดินไปยังร้านอาหารวันจันทร์ที่จองไว้ ทานข้าวเย็นจบแยกย้ายกับครอบครัวญาติ เจ้าของร้านเสื้อผ้าที่คุ้นเคยของพี่ๆ พาเดินเล่นยามค่ำคืน และไปนั่งดื่มที่ร้านDibuk House บรรยากาศดี มีบริกรเพียบ ร้านอยู่ได้ใช่ไหม

ข่าวว่า บ้านอยู่ตรงข้ามกัน ตามมาเจอกันที่ภูเก็ต

28/04/65

วันนี้เดินเล่นกันแค่ 3 สาว ยามสายลงไปทานเยนตาโฟสามพี่น้องข้างโรงแรม อร่อยดี พี่ๆ ทานกัน 2 ชามเลย กินกันเก่ง แวบไปนั่งทานเครื่องดื่มที่ร้านคาเฟ่ฝั่งตรงข้าม ฝนกระหน่ำมา ก็นั่งชิวเรื่อยๆ รอฝนหยุด แต่เดี๋ยวไม่ได้เก็บของ ต้องเช็คเอาท์ สุดท้ายก็เลยต้องลุยฝนกลับโรงแรมไป ไม่เป็นไรแค่ข้ามถนน มีร่มมา 1 คัน

เช็คเอาท์พร้อมฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม เดินเล่นไป เข้าร้านทานขนม ทานชา ในที่สุดก็ได้กินโอ้วเอ๋วแบบเต็มๆ จนไปแวะนวดเท้าเพื่อรอเวลาทานข้าวเย็นที่ร้าน La Gaetana (ลา เกตานา) ร้านนี้พี่ๆ จองแล้วอดกินไปแล้วรอบนึง คราวนี้กลับมาแก้มือ อร่อยค่า กุ้งตัวใหญ่มากกกก เจ้าของร้าน เป็นคู่สามีภรรยาที่เคยทำอาหารในโรงแรมมาก่อน ได้เวลารถมารับ พากลับไปรับกระเป๋าที่โรงแรม และพาไปส่งที่ท่าเรือ

ไปเจอกับผู้ร่วมทริปดำน้ำกับเรือดำน้ำ Live aboard ของพี่หมี เรือบุนนาค @mv.marinerbunnak  บนเรือมีข้าวต้มให้ทาน แต่เราอิ่มกันมากกกกจากร้านอาหารแล้ว แถมยังมีผู้ร่วมทริปใจดี ซื้ออาหารร้านดังมาให้เพิ่มด้วย จำไม่ได้ละว่าคืออะไร

ขึ้นเรือปุ๊บ ก็ตรวจโควิดกันปั๊ป ทุกคนปลอดภัยจ้า บรีฟกันสั้นๆ ถึงการใช้ชีวิตบนเรือ ทริปนี้มี 4 กลุ่ม ลีดโดย พี่ปุ๊ย พี่แพน พี่ป้อง และ พี่เอื้อม นอนพักผ่อน พร้อมดำน้ำวันพรุ่งนี้

เรือดำน้ำขนาดย่อมเยาว์ ความจุ 20 นักดำน้ำทริป มีห้องคู่ ที่เก็บของใต้เตียง ห้องน้ำรวม อาหารอร่อย สไตล์ไทยๆ มีคนดูแลโซนเครื่องดื่มและอาหารเป็นหนุ่มใต้ตาหวาน มือชงเครื่องดื่มประจำเรือ เราก็เมาเรือตามปกติ เป็นอยู่วันแรก แต่ก็ลงดำน้ำตลอดยกเว้น night dive

29/04/65

ไดฟ์ 1 เกาะห้าใหญ่ อุทยานแห่งชาติลันตา ไดฟ์แรก ดำเบาๆ ทดสอบกันไปก่อน ปะการังมีให้มองเยอะอยู่

ไดฟ์ 2 เกาะห้าเหนือ มีถ้ำให้ลอด ไปมา และมีดงปะการังอ่อนสวยงาม ฟูมาก สวยมากอยู่ และมีปัญหาเรื่องการจราจรเข้าถ้ำ เพราะกลุ่มที่ลงก่อน ไม่ได้เข้าทันที เพิ่งมาเข้าตอนที่กลุ่มหลังๆ ตามกันลงมาแล้ว ไปรอกันหน้าทางเข้าเพียบ ทำให้พี่ปุ๊ย ลีดเดอร์เรามุดเข้าไปเพื่อจัดระเบียบจราจรในน้ำ ขึ้นมาก็เล่นงานกันอย่างสนุกสนาน เราเลยเข้ากัน 2 รอบ รอบแรกแบบเร็วๆ แล้วไปเข้ารอบสอง แบบวนแล้ววนอีก ปลายไดฟ์ที่เราขึ้นไปแล้ว ไดฟ์ลีดเราเจอฉลามวาฬด้วย (ไดฟ์นี้พี่กั้งพลาด ยังเมาเรือ นอนสลบอยู่)

ไดฟ์ 3 เกาะห้า (No.6)

ไม่ดำ Night Dive

30/04/65

ได์ฟ 4 หน้าน้ำตกอาดัง ออกแนวดำทราย มองหาตัวนู้นนี้ ก็มีให้เห็นอยู่ กลุ่มครูเอื้อมดำลงไปก่อน มีปักตะเกียบเพื่อชี้เป้าไว้ให้ด้วย ที่เห็นจะๆ คือ นูดี้ยักษ์(เอาไฟฉายมาวางเทียบกันเลย) ม้าน้ำ กุ้งตัวน้อยๆ ในปะการัง คนอื่นเจอกันอีกเยอะ แต่เราวนไปมา ไม่กล้าไปไหนไกล

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ไดฟ์ 5 หินแปดไมล์ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา น้ำแรงมากกกก เกาะทุ่นขึ้นและลงเท่านั้น ถ้าหลุด จงขึ้นผิวน้ำมาเลย เห็นปลาที่ว่ายน้ำต้านกระแสอยู่เคียงข้าง จำได้ว่า คือ Batfish

ไดฟ์ 6 ตาลัง (Stonehenge) ปะการังสวยมากกกกกกกกก ไม่เคยมาเลย ได้ไง มีกระแสน้ำพอประมาณ เค้าว่า เพราะมีกระแสน้ำนี่แหละ ปะการังอ่อนถึงสวย ฟู ขนาดนี้ พี่ปุ๊ยกับเอ็กซ์อยู่กันยาวววววววมาก จนทำให้ไม่สามารถไปดำ Sunset ที่อื่นได้ เพราะจะไปไม่ทัน แถบนี้ค่อนข้างเข้มงวด สั่งห้ามดำน้ำตอนกลางคืนอย่างเด็ดขาด

ไดฟ์ 7 ตาลัง Sunset Dive ไดฟ์นี้ เลยได้ลงซ้ำอีกครั้ง กระแสน้ำอ่อนลงแล้ว แต่ปะการังยังพอสวยอยู่ เจอม้าน้ำ นูดี้

01/05/65

ไดฟ์ 8 เกาะ 5 ใหญ่

ไดฟ์ 9 เกาะ 5 (no.6) มีคนเจอฉลามวาฬแบบใกล้ชิดมาก 2 ตัว แต่ไม่ใช่เรา ชมภาพไปนะ

ไดฟ์ 10 เกาะ 5 ไปรอฉลามวาฬ แต่ก็ไม่เจอ

คลิปของเพื่อนร่วมทริป ผู้ออกแรงตามฉลามวาฬอย่างเต็มกำลัง
คลิปเบื้องหลังการตามฉลามวาฬ

02/05/65

ไดฟ์ 11 เกาะ 5 (no.6) ยังคงอยู่ที่นี่เพื่อเจอฉลามวาฬ สำรวจแนวปะการัง แนวผาหินนี้ก็จนถ้วนทั่วมาก แก๊งๆๆๆ เสียงเรียกเสียงสวรรค์มาแล้ว หันขวับทันที ฉลามวาฬว่ายเข้ามาอย่างสง่างาม ตัวเล็กนะวันนี้ หันไปหาพี่สาว ยังมองกำแพงอยู่เลย ต้องว่ายไปกระตุกฟิน ชี้เป้า ถึงจะรู้ตัว เนื่องจากเราไม่มีกล้อง จึงลอยดูอย่างสงบ คนเข้าไปรุมกันสุด มีอีกกลุ่มที่ลงมาไล่กับเราด้วยเช่นกัน เป็นภาพที่สับสนวุ่นวายอลวนกันแท้ ตอนแรกเรานึกว่า ทุกคนได้เจอ ปรากฏว่า ไม่ช่ายยยย กลุ่มพี่แทนไม่เจอวันนี้ แต่เจอไปเมื่อวานแล้ว ส่วนกลุ่มพี่ป้องยังคงไม่เจอต่อไป เห็นว่ามีพี่คนนึงในนั้นที่ดำมานาน แต่ยังไม่เคยเจอฉลามวาฬเลยยยย สักวันค่ะ พี่ สักวัน

ไดฟ์ 12 เกาะ5 (no.6) และก็ยังคงอยู่ที่นี่ เพื่อรอฉลามวาฬ แต่ไม่เจอ คราวนี้ ได้ใช้ SME อีกแล้ว ทริปนี้ ได้ใช้ของคนอื่นหลายครั้งอยู่ เพราะอากาศจะหมด ต้องขึ้นก่อน แต่ผู้นำกลุ่มเรากับอีกผู้ร่วมกลุ่มยังเหลืออีกเยอะ เลยอยู่กันต่อ แรกๆ ยังฝากขึ้น ตอนหลัง ยื่น SME ให้หมุนขึ้นเองแล้ว 555

ไดฟ์ 13 ปิดะนอก มาเพื่อฝูงปลาข้างเหลือง แต่น้ำแรงมาก ไปไม่ไหว ได้แต่มาดูแนวผาแทน

เครดิตภาพ ภาพบนบก พี่เข็ม พี่กั้ง ภาพใต้น้ำ เพื่อนร่วมทริปทุกท่าน

ทริปนี้มีการลงยันต์คาถา ด้วยครีมกันแดดแบบแท่ง แรกๆ ใช้ชื่อ เจต คนไม่มีดวง ซึ่งเราก็งงว่า ทำไมถึงใช้ชื่อคนไม่มีดวงล่ะ (มีที่มาจากทริปก่อนๆ ที่พอเจตขึ้นมาก่อนด้วยสักเหตุผลหนึ่ง หลังจากนั้น ทุกคนก็ได้เจอฉลามวาฬ 555) งงๆ ไม่แน่ใจว่า ยังไงถึงเปลี่ยน แต่แน่ๆ ชื่อที่เปลี่ยนคือ ปรจารย์แห่งการดำน้ำ พี่ปุ๊ย 555 ผลคือ เจอฉลามวาฬจ้า แม้จะไม่ได้เจอครบทุกคน แต่ส่วนใหญ่ก็เจอ จนแซวกันว่าต้องมีผลิตภัณฑ์ยันต์พี่ปุ้ยล่ะ พี่ปุ๊ยบอก พอๆ เดี๋ยวไม่ขลัง 555

กิจกรรมสุดท้าทายกระเป๋าตังค์ ท้าทายความสูง วัดใจกันสุดๆ

ถามว่า ตัดสินใจนานไหม ตอบได้เลยว่า ไม่นาน เพื่อนโพสต์ชวนกันทาง Facebook เราก็ไปตอบใต้คอมเม้นต์ ว่า จัดไป ไปคุยต่อกันในกลุ่ม ส่งลิงค์ราคา รุ่งขึ้นก็ทยอยซื้อกันจ้า รวดเร็วไหมล่ะ

Skydive มีหลายที่ในประเทศไทย เชียงใหม่ ชลบุรี และ ระยอง เราไปกันที่ ระยองที่ว่ากันว่า สูงที่สุดแล้ว สำหรับประเทศไทย ระยะ 13000 ฟุต หรือ ประมาณ 4 กิโลเมตรจากพื้นดิน ด้วย Gold Package กล้องติดมือครูฝึก และ ช่างภาพส่วนตัวที่กระโดดตาม ใครจะมาโดด ขอแนะนำให้ซื้อแพคเกจนี้ ภาพที่ได้ คุ้มค่าจริงๆ

เราได้รับการนัดหมายให้ไปถึงที่ Skydive ระยอง ประมาณ 9 โมง แต่ไปถึงกัน 9.15 น. ไปลงทะเบียน ได้เป็นลำดับที่ 3 รับเสื้อยืดเป็นของที่ระลึก ใน 1 ลำ จุดได้เต็มที่ 9 คน ถ้าซื้อ Gold package กัน ก็จะไปได้ 3 ทีม เลยได้ไปด้วยกันกับเพื่อนๆ ปุ้ย ตอง กบ ส่วนเพื่อนปุ้ยแยกไปอีก 1 ลำ จากนั้นก็รอเรียกจ้า จะมีจอทีวีบอกเมื่อถึงเครื่องบินของเรา จะระบุครูฝึกและช่างภาพของแต่ละคน พร้อมลำดับการกระโดด

ขณะที่นั่งรอ เจ้าหน้าที่ก็เชิญชวนให้ออกไปให้กำลังใจทีมแรกที่กำลังจะขึ้น และมาตามให้ชมเมื่อทีมแรกโดดลงมา ชี้ให้มองขึ้นไปบนฟ้า มองแทบไม่เห็น และในที่สุด เค้าก็ให้กลุ่มเราเข้าไปเตรียมตัว ใส่ชุดและแนะนำท่าที่ต้องรู้ ท่าแรก คือ ท่า Banana หรือ ท่ากล้วย คือเงยหน้าให้สุด จับที่สายชุด ท่าสองคือ ปล่อยมือจากสายชุด และยกขางอไปทางด้านหลัง จะเริ่มทำเมื่อครูฝึกแตะบอก ท่าสุดท้าย คือ ท่าตอนจะลง ยกขาขึ้นมาให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือ งอขาขึ้น และเสริมด้วย ยิ้มค้างไว้ตั้งแต่บนเครื่องเลยนะ มีคนแนะนำๆไว้ ซึ่งก็จริง

จากนั้นไปให้สัมภาษณ์กับช่างภาพ ได้เวลาก็เดินขึ้นเครื่องบินเท่ๆ ขึ้นไปนั่งบนเครื่องชมวิวเมือง วิวสวน วิวทะเล เรานั่งหน้าสุด ประตูเปิดไว้ ลมตีหัวกระเจิง นั่งเครื่องบินสัก 10 นาที ได้ความสูงแล้ว ครูฝึกก็เช็คความพร้อม ความปลอดภัยอีกครั้ง และให้สัณญานใส่แว่น จากนั้นก็ลากเราไปที่ประตู ส่วนช่างภาพเราก็ไปเกาะอยู่ข้างเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว งานนี้ คนที่เท่ที่สุดในสายตาเราคือ ช่างภาพค่ะ ช่างภาพเราชื่อน้องอีฟ สาวน้อยชาวไทยวัย 24 ปี ตัวเล็กมากกก คล่องแคล่ว บินเป็นค้างคาวเลย ระยะเวลา Free fall สนุกมากกกก เค้าบอกว่า เราดิ่งลงด้วยความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงล่ะ แต่ไม่รู้สึกเลย รู้แต่ว่า ลมตีสุดๆ เปลี่ยนท่าเพื่อถ่ายรูป ถ่ายคลิปอย่างเมามันส์ จนในที่สุด ครูฝึกก็กระตุกร่มหนีห่างออกจากช่างภาพ

จังหวะนี้เหมือนโดนกระชาก และมีอาการแกว่งไปมา เข้าใจว่า คนที่มึนทั้งหลายก็จังหวะนี่แหละ เราก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่หน้าก็ยังคงยิ้มและมองวิวต่อไป ครูฝึกบังคับซ้าย บังคับขวา และ ชี้ไปที่ข้อมือให้รู้ว่ากล้องอยู่นี่นะ เราพยายามจะพูดใส่ แต่เสียงเราเบามากเลย ฟังไม่รู้เรื่อง แป็บๆ ถึงพื้นแล้วจ้า เงินที่ให้ไปกับประสบการณ์ที่ได้มา สุดยอดดดดดดดดด

แต่หลังจากลง เราขอนั่งนิ่งๆ ก่อนนะ เราเมา 555 ลงมาข้างล่าง ทีมแรกเค้ายังไม่ได้รูปกันเลย เลยคุยกันว่า ไปหาข้าวกลางวันทางกันก่อน แล้วค่อยกลับมา ระหว่างนั้น ก็รับประกาศด้วย ได้ขึ้นเครื่องตอนเกือบ 11 โมง ออกไปทานข้าวตอนใกล้เที่ยง กลับมารับรูปตอนบ่าย แล้วก็กลับกรุงเทพกันเลยจ้า

ทริปนี้ต้องขอขอบคุณ โน็ต สามีปุ้ยที่มาขับรถพาสาวๆ มาผจญภัย ท้าทายความสูงกัน เรามานอนค้างกัน 1 คืน นอนพักริมหาดแม่พิมพ์ ห่างจากที่ขึ้นเครื่องบินประมาณ 10 นาที จริงๆ จองไว้ตั้งแต่ยังได้ใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกัน และ ต้องเลื่อนไปเพราะ ระยองปิดล็อคดาวน์

เว็บไซต์ Skydive Thailand

https://skydivethailand.com/th/first-jump/?gclid=EAIaIQobChMI__HCgpns7wIVyjArCh0cHwOIEAAYASAAEgLBh_D_BwE

ฮัลโหล รอบที่ 3 แล้วจ้า ที่มาที่นี่ ติดใจอะไรรึเปล่า เปล่าหรอก แค่ว่า ยังไม่ได้มา Kawasan Fall ซะที เดอะแก็งค์ไม่ยอม ก็เลยต้องมา แต่สมาชิกก็หายไปเยอะ เพราะครั้งนี้ เรา+ดำน้ำลึกที่ เกาะมาลาปาสกัวด้วย จะไปตามหา Thresher Shark ปลาฉลามหางยาว นับรวมซื้อตั๋ว 6 คน แต่มาจริงก็ 5 คนละจ้า

Day 1 เดินทางจ้า ไฟลท์กลางคืน ถึงเช้า

ก่อนออกเดินทาง มีเรื่องให้ตื่นเต้นหลายเรื่อง ตั้งแต่ เพื่อนคนหนึ่งยินดีสละตั๋ว เราก็ต้องมาเคลียร์ห้องนอนกันใหม่ ตั้งใจจะ Check in ล่วงหน้า ขอพาสปอร์ตทุกคนมาดู เจอว่าพาสปอร์ตของเพื่อนอีกคนจะหมดอายุอีก 2 เดือน ซึ่งจะเดินทางไม่ได้ ตามกฏต้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน รีบปรึกษา หาทางกันใหญ่ ดีนะ มีทำพาสปอร์ตด่วน ลุ้นกันวินาทีสุดท้าย ได้พาสปอร์ตมาอยู่ในมือตอนเย็น แต่ๆๆ ระหว่างเข้าคิวจะเช็คอิน ก็มีเจ้าหน้าที่ทักเรื่องอายุพาสปอร์ตของคนข้างหน้า ทักไปทักมา มีเจ้าหน้าที่อีกคนมาบอกว่า จริงๆ แล้ว ฟิลิปินส์ จะหมดอายุ 1 เดือนยังได้เลย แต่ก็อย่าเสี่ยงกันเลยเนอะ เครื่องดีเลย์อีกต่างหาก เช็คนู่นเช็คนี้ กว่าจะออกจริงเกือบตี 3 ถึงกันเลทสุดๆ เห็นใจคนมารับจริงๆ

Day 2 สนามบิน ซีบู มุ่งสู่ทางใต้ของเกาะซีบู เพื่อไปข้ามเรือไปเกาะมาลาปาสกัว มื้อเช้า เราจัดไก่ย่าง ร้านดังกันตั้งแต่มื้อแรกเลย เราจำว่ามันคือ ร้านไก่ย่างสีเขียว อร่อยกว่า ร้านไก่ทอดสีส้ม

ระหว่างทาง ทำไมมันเต็มไปด้วยซากต้นไม้ล้ม บ้านหลังคาเปิด กระจกแตก สุดท้ายถึงรู้ว่า พายุเพิ่งถล่มทางตอนเหนือ นั่นหมายถึง เกาะมาลาปาสกัว จุดมุ่งหมายของเราด้วย เพิ่งจะมีเจ้าหน้าที่ทางเกาะติดต่อมาตอนใกล้ถึงท่าว่า ให้เราแวะพักแถวท่าเรือก่อนคืนนี้ ยังไม่สามารถข้ามมาได้ เพราะไม่มีเรือ และ ห้ามการเดินทางด้วยเรือในระยะนี้ อ่าฮะ สนุกล่ะค่ะ

เดินชมสถาพเมืองหลังพายุถล่ม กระจกแตก ป้ายหลุด ต้นไม้ล้มระเนระนาด เจอกลุ่มพี่คนไทย มาดำน้ำเหมือนกัน นอนค้างมาก่อนหน้าเราคืนนึง เจอลมพายุจังๆ เค้าบอก เรายังโชคดี ยังพอมีกำหนดว่า พรุ่งนี้น่าจะข้ามเรือได้ ของเค้านี่ ไร้คำตอบใดๆ จนวันนี้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มื้อกลางวัน มื้อเย็น ก็เดินหาที่ทานกันแถวนั้นนั่นแหละ ออกแนว พักผ่อน เล่นในสระโรงแรมกันไป

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ที่พักคืนนี้ จริงๆ ต้องได้พักบนเกาะ ไปคุยเรื่องค่าใช้จ่ายกันอีกทีว่าจะขอคืนได้ไหมเมื่อถึงที่พักที่นู่น

พัก ฺBougainvillea garden lodge ห้อง 3 คน 2580 เปโซ ห้อง 2 คน 2080 เปโซ

สภาพสวนในโรงแรมที่พักแถวท่าเรือ

Day3 ข้ามเกาะ มาลาปาสกัว – ดำน้ำ

ในที่สุดเช้านี้เราก็ได้ข้ามเกาะสักที เราใช้บริการของ TSD Thresher Shark Divers ดูแลให้ทุกกระบวนการจนถึงที่พักที่เกาะและการดำน้ำ เรือที่ใช้ข้าม เก่า ไม่มีหลังคา สอบถามคือ เรือที่เค้าเคยมี พังไป 5 ลำ เหลืออยู่แค่ 2 ลำ สำหรับดำน้ำ ที่ใช้ข้ามคือ ไปหาเช่ามาต่างหาก ระหว่างทาง ก็เห็นซากเรือลอยหักอยู่หลายลำ มีลำของ TSD ด้วย

มาถึงเกาะ ก็เห็นช้ด ต้นมะพร้าวล้ม หลังคาเปิด เหอๆ ต้องมาลุ้นกันต่อด้วยว่า จะมีเรือให้เราออกไปดำน้ำหรือไม่ ไปนั่งรอกันที่โรงแรม แล้วสอบถามกันเป็นระยะๆ

โรงแรมเราคือฺ Blanco Beach Resort สวยงาม สีขาว ดูใหม่ และ มีห้องที่พัง รวมทั้งห้องที่เราพักด้วย กระจกแตกไปบานนึง เค้าเอาแผ่นไม้อัดมาปิดไว้ชั่วคราว ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้างโรงแรมเป็นสุสานนะ 555 ไม่เหลือบมอง มองแต่ทะเลข้างหน้าก็พอ

ระเบียงยาว นั่งชมวิวทะเล มองสายฝน มองท้องฟ้าได้สบาย

Dive 1 15.00 น. Check dive เช็คไดฟ์จริงๆ ลงไป แทบไม่เห็นอะไร ดำน้ำที่นี่ ควรจะเรียน Nitrox มาก่อน เพราะต้องดำลึกเวลาไปชมฉลาม จะได้อยู๋ได้ยาวๆ เราก็ไปเรียนกับพี่ปุ้ยมา อ่านค่า ข้อระวังทั้งหลาย ลืมหมดละ 555 เราใช้เฉพาะตอนดำน้ำดูปลาฉลาม

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มื้อเย็น Angelina ร้านอาหารชื่อดัง ใกล้กับ Tapanee Resort ร้านอาหารอิตาเลี่ยน อร่อยดี หมดไป 3360 เปโซ

Day4 ดำน้ำ วันแห่งการดำน้ำ ผิดหวัง เพราะคาดหวัง

Dive 2 5.00 น. Monard Shoal มาดักรอปลาฉลามหางยาว แต่ไร้วี่แวว ใช้เวลานั่งเรือมานาน แต่ระยะทางไม่ได้ไกลมาก คือต้องระวังไม่ให้โดนโขดหิน

Dive 3 12.00 น. North Point

Dive 4 15.00 Deep Rock

น้ำยังคงขุ่นเพราะพายุก่อนหน้า ถ้าน้ำใสคงจะสวยมาก พอมีตัวเล็กตัวน้อยให้เห็น ไดฟ์ลีดเดอร์พยายามหาให้สุดชีวิต

วันนี้เจอเหตุการณ์เรือดับด้วย รอกันนานเลยกว่าจะซ่อมแซมได้ ทำให้คิดได้ว่า ถ้าไปไกลๆ จะยังไงเนี่ย เรือยิ่งมีน้อยๆ อยู่

เย็นวันนี้เราเดินไปหาของกินที่ตลาดกลางเกาะ แบบชาวบ้าน กินท่ามกลางแสงเทียน จริงๆ ก็นักท่องเที่ยวอยู่ดีแหละ เพียงแต่เผากันสดๆ ดูบ้านๆ ราคาเป็นมิตรขึ้น เจอกับครอบครัวของไดฟ์ลีดเดอร์ระหว่างทางด้วย โชว์ลูกใหญ่เลย

คืนนี้ก็นั่งมองท้องฟ้ากันตรงระเบียงอีกเช่นเคย

Day 5 ดำน้ำ – กลับเข้าตัวเมือง

Dive 5 Monard Shoal ไดฟ์สุดท้าย เรายังคงไปรอชมปลาฉลามหางยาว คราวนี้มีคนเบี้ยวคือ มิ้นกับวิ เสียดายแทนมาก เพราะคราวนี้เจอเต็มๆ หลายตัวด้วย เรียกได้ว่า รอต้อนรับตั้งแต่เราลงเรือเลย ลงปุ๊บระหว่างรอคนอื่นๆลงมา เงยหน้าขึ้นไปนิดเดียวก็เห็นแล้ว คือ ใกล้จริงๆ สวยมาก ตัวใหญ่ น้ำใส แสงดี จนไดฟ์ลีดเดอร์มาเอากล้องไปช่วยถ่ายให้เองเลย 555 ซึ่งดีมากกกก เราได้มองเต็มตา เพลินเลย เราใช้เวลาอยู่กับปลาฉลามหางยาวค่อนข้างนานกว่าคนอื่นๆจะลงมา ปลาก็ไปแล้ว

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เราไปต่อกันที่จุดนัดพบที่เราเคยมาครั้งแรกแต่ไม่เจอ คราวนี้มาตามนัดจ้า มากันให้ขวักไขว้ ทั้งคน ทั้งปลา เพลินเลย ว่ายวนไปมา จนไม่แน่ใจว่าตัวไหนกันบ้าง ฟินจริงๆ

มาดำน้ำที่นี่ ปลาฉลามหางยาวคือที่สุดแล้วจริงๆ ตามันแบ๊วมาก น่ารักที่สุด ของที่ระลึกรูปปลาฉลามหางยาวต้องมีกลับมา

ขึ้นฝั่งก็กลับไปกินข้าวเช้า เก็บข้าวเก็บของ แต่ไม่แน่ใจว่า มิ้นกับวิ เข้าใจว่ายังไง เก็บของมานั่งรอเราที่ไดฟ์เซ็นเตอร์ซะงั้น อาบน้ำ เก็บข้าวเก็บของ ก็เดินไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายกับไดฟ์เซ็นเตอร์

เราซื้อแพคเกจ คนละ 26,600 บาท รวม ดำน้ำ 8 ไดฟ์ Transfer มื้อเช้า มื้อกลางวัน เลือกพักที่ Blanco Beach Resort

http://www.malapascua-diving.com/

แต่เราดำจริงแค่ 5 ไดฟ์ ก็เลยลดไปคนละ 3900 เปโซ และได้คืนจากโรงแรมสำหรับ 5 คนอีก 7020 เปโซซึ่งก็เพียงพอสำหรับค่าห้องที่จ่ายกันเองตอนพักก่อนข้ามเกาะ

ค่าเช่าชุดและอุปกรณ์ วันละ 700 เปโซ ครั้งละ 350 เปโซ ค่า Nitrox ครั้งละ 350 เปโซ เราจ่ายไป 700+ 350*2 + 350*2

ค่าธรรมเนียม Malapascua Marine Park fee 450 เปโซ

เราได้นั่งเรือกลับตอนเที่ยงกว่าๆ ก็เลยทานข้าวกลางวันกันก่อน รถตู้พากลับเข้าตัวเมืองเซบู ประมาณ 5 โมงเย็น พักที่โรงแรม Welcome 3 ห้อง 6082.82 เปโซ โรงแรมอยู่ใกล้ห้างใหญ่ ไปจบมื้อเย็นและช๊อปปิ้งกันที่นั่น

มื้อเย็นเป็นอาหารปิ้งย่างขึ้นห้าง มีเต้นโชว์กันอย่างสนุกสนานด้วย อารมณ์ MK แต่เพลงสนุกและเต้นมันส์มากจริงๆ เดินกันจนห้างปิดนั่นแหละ

Day6 เดินทางไป Moal Boal จ้า เราก็แวะทานข้าวกลางวันระหว่างทาง เป็นอาหารท้องถิ่นห้องแอร์ ถึงเป้าหมายวันนี้ ปีนเขา ตามประสาเราต้องหาอะไรทำระหว่างทางไป เริ่มเดินตอนเที่ยงได้ ใช้เวลากันไป 1 ชั่วโมง 15 นาที Kandungaw Peak in Dalaguete ทางชันมากกกก ต้อนรับเราด้วยบันไดปูนยาวๆ ตามด้วยทางเดินขึ้นยาวๆ ชันๆ และตบท้ายด้วยบันได ด้านบน จะมีก้อนหิิน พีคต่างๆ ให้ไปได้อีก

แต่เราไปเยือนแค่ Titanic Peak กับ Kandungaw Peak เท่านั้น มีค่าธรรมเนียบคนละ 30 เปโซ มีไกด์ท้องถิ่น 300 เปโซ จริงๆ ไม่ต้องมีก็ได้ ไม่หลงหรอก และให้ทิปคนขับไป 500 เปโซ

เดินวันนี้ ตัดกำลังน่าดูเหมือนกัน ประทับใจกับความชัน มองแล้วคิด จะขึ้นกันไปยังไงนะเนี่ย และนี่คือเสน่ห์ในแบบของเค้าล่ะ ขึ้นมาด้านบนแล้ว ชมวิวได้หลากหลาย จะวิวทะเล วิวเขา เลือกเอาตามใจชอบเลย

ถึงที่พักประมาณ 16.30 น. คราวนี้เราพักที่ Parrot Resort Moal Boal ออกจากเขตชุมชนมาหน่อย แต่ก็เดินเข้าไปแหล่งทานข้าวได้สบายๆ ไม่ไกล โรงแรมกว้างขวาง มีสระน้ำ มีมุมนั่งพักผ่อนหย่อนใจ มีนกแก้วคอยส่งเสียงอยู่เรื่อยๆ 555 เราก็ไปกวนมันด้วยแหละ ดึกแล้ว ยังไปเล่นปิงปองกันอยู่เลย

เราแวะไปทานเข้าวร้านอาหารฝรั่ง มีอาหารญี่ปุ่นขายด้วย มื้อนี้หมดไป 5000 เปโซ อื่มมากก แล้วก็ไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายกับ Planet Action ที่เราเคยใช้บริการครั้งที่แล้ว ถามแล้วว่า ได้ไปมาตลอดใช่ไหม เค้าก็บอกว่าใช่ และพรุ่งนี้ก็น่าจะไปได้ เย้

กลางคืน ไปนั่งชิวริมสระน้ำโรงแรม เล่นปิงปองกวนเจ้านกแก้วเจ้าถิ่นเล่น อิอิ ใครชอบสงบๆ มีพื้นที่กว้างขวาง ไม่เกี่ยงเดินนิดหน่อย แนะนำให้พักที่นี่นะ

2 คืน 3 ห้อง 25522.56 เปโซ

Day 7 Canyoneering at Kawason Fall

ได้ฤกษ์ซะที ผ่านมา 3 รอบ ในที่สุดรอบนี้ก็ได้จัด

9 โมงเข้า รถมารับที่หน้าโรงแรม สมาชิกเต็มคันรถเลย ฝรั่งครึ่ง เอเชียครึ่ง เจอจัสติน หลานมาริโอ้ คนที่เคยพาเราเดินน้ำตกคราวที่แล้ว ระหว่างทางที่น้ำตกก็เจอกับมาริโอ้ด้วย จากเค้าจำเราไม่ได้ คงจำได้ล่ะ เพราะย้ำกันเหลือเกิน

รถแวะรับเสบียงสำหรับอาหารกลางวัน พาไปถึงจุดจอดเปลี่ยนชุดได้ สามารถเตรียมชุดแห้งมาเปลี่ยนได้นะ แต่เราไม่ได้เตรียมกันมา กะเปียกและกลับกันทั้งแบบนี้เลย เหอๆๆ คือ ไม่รู้ไง สวมชูชีพ สวมหมวกกันน็อค ทิ้งของที่ไม่จำเป็นไว้ที่นี่ ขึ้นรถไปจุดเริ่มเดินเข้าน้ำตกโลดดดด

มีของเล่นใหม่มาเพิ่งจ้า Zipline ย่นระยะเดิน แต่ต้งขึ้นบันได 6 ชั้น และรอคิว คนที่เดินเค้าก็ไปถึงก่อนนานละ และ เรายังต้องเดินขึ้นจากจุด Zipline อีก เลยไม่แน่ใจว่า ย่นระยะ หรือ เหนื่อยเพิ่ม แต่ก็สนุกดี เป็น Zipline แบบนอน เสียคนละ 500 เปโซ ไม่มีตังค์ แจ้งให้ไกด์ออกให้ก่อนได้ แล้วค่อยไปเคลียร์กัน

คนเยอะมากกกกก ประหนึ่งสวนสนุก รอคิวโดด รอคิวปิน กันเป็นระยะๆ กว่าจะเจอช่วงสงบบ้าง แทบไม่มีเลย มันคืือสวนน้ำที่แท้ทรู แต่สีน้ำสวยจริง สีฟ้า จุดแรกก็ต้องกระโดดลงแล้ว เป็นจุดที่เสียวหน่อย คือ เป็นทางลานหินกว้างๆ ที่เห็นช่องน้ำแคบๆ ให้ยืนบนลานแล้ว กระโดดไปเลย ไม่โดนหินหรอก

อีกจุดก็เพื่อความสนุก คือ จริงๆ ลงมาแล้ว แต่ไปปิีนเพื่ออกระโดดลงมาอีกที่

จุดกระโดด 10 เมตร จุดนี้สนุก คือ วิ่งงงงงงงแล้วกระโดดเลย ห้ามหยุด คุณจะมองไม่เห็นว่าข้างหน้าคืออะไร คนต่อคิวกันยาวววววววว ลุ้นกันตลอด ปรบมือให้กำลังใจกันเป็นระยะ มีคนในเสียจะหยุดกลางคัน เสียการทรงตัว หล่นลงผิดท่าเลย น่าจะเจ็บ จุดนี้ย้อนแย้งนิดนึง ป้ายเตือนให้ใส่หมวก แต่ทางปฏิบิัติแนะนำให้ถอดหมวก ซึ่งถูกแล้ว ไม่งั้น อาจจะกระแทกได้ พร้อมแล้วก็วิ่งหนีฝูงหมาไล่กัด แล้วก็กระโดดไปเลย (จินตนาการสูง) ต้องนัดหมายกับคนข้างล่างที่จะช่วยถ่ายรูป ถ่ายวิดิโอให้ดีๆ เห็นใจนะ เพราะไม่รู้ว่า ใครจะกระโดดคนถัดไป

จุดสุดท้าย วันนี้ที่ 12 เมตรระดับความสูงอาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับระดับน้ำ จุดนี้ โดดได้ 2 มุม ผลัดกันโดด คนต่อแถวยาวจนชิวกันละ มาเสียวอีกทีตอนเตรียมรอโดดนี่แหละ วัดใจกันสุดๆ ท่าโดดนี่ควบคุมไม่ได้เลย ขาปันดิ๊กๆๆๆ เลย ระหว่างทาง มีร้านปิ้งย่างให้ได้กิน แต่เราว่า ไม่กินจะดีกว่า เพราะจะจุกได้ง่ายๆ

มีสไลด์เดอร์ธรรมชาติให้เล่นด้วย เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ Canyoneering at Kawasan Falls ถามว่าสนุกไหม ก็สนุกดี แต่เราชอบ  MONTANEZA FALLS กว่ามาก ท้าทายสุดๆ ให้ดี คือ มาในหนึ่งทริป ไปทั้ง 2 ที่จ้า

กลับไปพักผ่อนชิวๆ ที่โรงแรม ระหว่างทาง เงินเราหมดไปกับค่า ZIpline ทำไห้ไม่พอให้ทิป เลยให้มิ้นกระซิบบอก หลานมาริโอ้ให้ตามไปรับที่โรงแรมหน่อย

ม้ิ้น: you come with me to my room เสียงกระซิบๆ

จัสติน หลานมาริโอ้: ทำหน้าตาแตกตื่น แต่ก็เดินตามมาแต่โดยดี

เราที่เห็นเหตุการณ์ก็เริ่มขำกันล่ะ แต่ไม่มีใครช่วยแก้ไขใดๆ แล้วเค้าก็ตามเราเข้าไปที่โรงแรม เราไปหยิบเงินมาให้ เค้ารับแล้วก็ ยิ้มพร้อมส่งเสียง Oh I understand 555 คือเค้าคิดว่า มิ้นชวนเค้าเข้าโรงแรมมมมมม

3 คนนี้ ในที่สุดก็ล้างอาถรรพ์สำเร็จในครั้งที่ 3 กับความพยายามในการมา Kawasan Falls

Day8 เหมารถตู้เข้าตัวเมือง กะแวะเที่ยว ซอปปิ้ง แล้วขึ้นเครื่องตอนหัวค่ำ

ตอนเช้าชวนกันไปดู Sadine Run งานนี้เจอตัวเป็นฝูง ด้วยระดับน้ำกำลังดี ใครจะมาดู แนะนำว่า ช่วงสายถึงก่อนเที่ยง เป็นเวลาดีจ้า บางคนเจอเต่า เจอปลาบาราคูด้าด้วย แต่เราไม่เห็นนะ แล้วก็กลับไปอาบน้ำ ทานข้าวเช้าที่โรงแรม

สายๆ เราก็นั่งรถตู้กลับเข้าโรงแรม แวะทานข้าวกัน กะว่าจะไปเที่ยวที่นึง เป็นบ้านเก่า แต่วันนี้เค้าปิด วันนี้คือวันสิ้นปี เลยแค่ดูรอบๆ อยู่ใกล้ๆกับบ้านเก่าที่เคยมา และ ก็อนุสาวรีย์ด้วย ก็แวะซะหน่อย จากนั้นก็ไปแวะห้างอีกแล้ว ให้ทานข้าว ช็อปปิ้งกัน แล้วก็เตรียมตัวขึ้นเคร้ื่องกลับบ้าน

จริงๆ ถ้าเราสมัครสมาชิก ฟิลิปินส์แอร์ไลน์นี่ สะสมได้หลายแต้มเลยนะ เพราะฟังๆ ดูแล้ว อาจจะมีกลับมาอีก แต่เราขอไปดำน้ำที่อินโดก่อนสักรอบได้ไหมมมมมม

ค่าใช้จ่าย 4 หมื่นกว่าๆ

ผู้ร่วมทริป พี่กั้ง พี่จอย มิ้น วิ กบ

คอนเสิร์ต โบ สุนิตา คอนเสิร์ตในรอบ 22 ปี Rythm of Beau Sunita Concert กับ ผลงานเพลงตั้งแต่แรกเริ่ม ยุคเทป ซีดี จนกระทั่ง streaming เพลงจากอัลบั้ม เพลงประกอบหนัง ประกอบละคร ขนมากันให้ฟังอย่างเต็มอิ่มเปิดเพลงแรกด้วย ฉันรู้ เพลงเปิดตัวของโบ สุนิตา

จากนั้นร้องเพลงจากอัลบั้มต่างๆไล่มาจนปัจจุบัน พร้อมภาพหน้าปก Beau ไม่มีอีกแล้วSuper Beau เสียใจMiracle มาบอกอะไรป่านนี้รักยิ่งใหญ่จากชายคนนึง เกลียดเธอไม่ลงEnjoy ถ้าเธอพร้อม ฉันก็พร้อม Music ฝากตามเขาที

Single ฉันไม่รู้เสริมทัพด้วยแขกรับเชิญ lipta กับเพลงสนุกๆ ไม่อยากรักคนที่ไม่อยากรักเรา, แฟน, พรุ่งนี้จะไปกับเธอ ก่อนปิดท้ายด้วยเพลงฝืน เซ็ต เพลงกับเครื่องสาย อยู่คนเดียว, เห็นน้ำตาฉันไหม, อย่าบอกให้ฉันไป, เทน้ำบนกองทราย, ตามใจ, ฉันจะจำเธอแบบนี้

ละมุนมากละมุนแบนด์ก็เลยตามมา เปิดด้วย จั๊ก-โบ กับเพลง ความรักจากฉัน ต้า-ปิงปอง ในเพลง รักยิ่งใหญ่จากชายคนหนึ่ง รวมตัวกันเป็นนักร้องเสียงประสาน ร้องเพลงเอกของแต่ละคน รักเธอจนเหนื่อยหัวใจ ตัวจริงของเธอ ถ้า และ เธอไม่เคยถาม เพลงนี้ต้าให้ทุกคนไม่พูด รู้กันแค่นี้ โบบอกเดี๋ยวก็มีคลิป เพื่อนกัน ผิดแบบเดียวกัน ร้องผิดเนื้อเต็มๆจ้า โบบอกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ ให้ 3 หนุ่มร้องร่วมกันในเพลง ไม่มีหัวใจทำไมไม่บอก มีท่าเต้นด้วยร้องจบ ก็มาคุยกันซึ้งถึงความรู้สึกที่มีต่อโบ รอบวันเสาร์ไปทางฮา แต่กริบมาก วันนี้เลยขอมาทางซึ้ง สตาฟบอกให้คุยนานๆ เพราะชุดโบใส่ยากมากกกกกมาแล้ววว

ชุดราตรีจ้า กับเพลงประกอบละคร ประกอบหนังทั้งหลาย อิ่มมากกับเซ็ตนี้ – กีรติ ข้างหลังภาพ ภาพน้ำตกมาเลย- ขอแค่ฝัน เกมรักพยาบาท- รักครั้งสุดท้าย เมืองมายา- ยังรักกันอยู่ใช่ไหม ลัดฟ้ามาหารัก- อยากให้เธออยู่ตรงนี้ พริกขี้หนูกับหมูแฮม ทอม อิศรา ร่วมแจมนิดๆ ร้องคู่เต็มในเพลง เก็บ เข้ากันดีมาก และฟังทอมร้องเดี่ยวๆ ในเพลงเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ยังจำเสียงของแว่นใหญ่ในท่อน A B อยู่เลยโบพูดว่า รู้สึกว่่าเชิญแขกรับเชิญมาร่วมร้องเพลง คั่นเวลาให้ได้เปลี่ยนชุดจริงๆ หยอกๆ นะ มาดูไลน์เต้นเท่ๆของแดนเซอร์ กับ การเต้นแล้วของโบในเพลง รักแท้หรือแค่เหงา โชว์ชุดนี้ออกแบบมาดีจริงๆ

ชีวิตของโบเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นๆ ในเพลง ไม่ใช่เจ้าหญิงในนิยาย พี่ป๊อดมาแจมในเพลงนี้ด้วยเนื้อร้อง เจ้าหญิง และพาเข้าเพลงเจ้าหญิง อารมณ์มาเต็มมาก พีคในพีคเมื่อโบเพิ่มท่อนแร็ปด้วย อย่างเท่ มาสนุกกันต่อ บุษบา และ ติ๋ม ร่วมบันทึกในประวัติศาสตร์ คนดูทั้งฮอลล์ยืนเต้นบนเก้าอี้ ข่าวว่า เก้าอี้พังไปหลายตัว ก่อนโบจะปล่อยให้พี่ป๊อดอยู่คนเดียวกับเพลงที่โบขอว่า ต้องร้องเพลงนี้ในคอนเสิร์ตนี้ ก่อนโบเล่าเรื่องครอบครัว มีพี่น้อง 4 คน พูดถึงพี่สาวที่เป็นผู้จัดการเสียชีวิตไป 10 กว่าปีแล้ว อยากร้องเพลงนี้ให้กับคนที่เราคุยกับเค้า กอดเค้าไม่ได้แล้ว ในเพลงอธิษฐาน ฮานิ ลูกสาวโบ มาในชุดกะลาสีกับเพลง หนึ่งไม่กี่คน น้องตื่นเต้น จับมือแม่ไปร้องเพลงไป แกว่งแขวงไป รอบวันนี้มีคนรู้แล้ว มีดอกไม้มาให้กำลังใจน้องเต็มเลย วันเสาร์คนยังไม่รู้ ปิดเป็นความลับ โบถามว่า แล้วเวลาหยุดโรงเรียนมาซ้อม หนูบอกคุณครูว่าอะไรคะ ฮานิตอบยิ้มเขินๆ หนูมีธุระค่ะ โบพยักหน้ายิ้มบอกตัวแค่นี้มีธุระ

ปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วย เพลงฉลองล้านตลับ พรุ่งนี้เธอจะรักฉันไหม และ ขอเป็นคนของเธอ ลงมาเดินพบปะกับผู้ชม 555ปิดฉากคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 22 ปีด้วยความประทับใจ คอนเสิร์ตใส่ใจในรายละเอียดแสงออกแบบมาอย่างละมุนละไม การเชื่อมต่อของแต่ละช่วงลื่นไหล ไม่ต้องใช้ความอลังการ เรียบง่าย แต่ได้อารมณ์ กับเสียงของนักร้องและเครื่องดนตรีวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 รอบ 17.00 น. เริ่ม 17.30 น. จบเกือบ 21.00 น.ผู้ร่วมขบวนการ พี่สาว และแม่ครั้งนี้เรานั่งโซนข้างค่อนมาข้างหน้าจ้า เปลี่ยนบรรยากาศ

เดี๋ยวนี้เหมือนจะปั่นจักรยานปีละครั้งสองครั้ง 555 ที่ผ่านมาอากาศมันร้อนมาก และสนามหลวงก็ปิด ถูกใช้ทำกิจกรรมนู่นนี่นั่นตลอดเวลา ถ้าจะปั่นต้องไปปั่นบนถนนก็เลยไม่ได้ไปปั่นออกกำลังกายเท่าไหร่แล้ว

วันนี้ เรามาปั่นดูไฟกันจ้า หลังจากเสร็จพิธีขึ้นครองราชย์ ร. 10 นั่นเอง พบสมาชิกไปชมไฟกันพอสมควรเลย ปั่นจักรยานกันมาก็หลายคนเลย

เส้นทางวันนี้ บ้าน ท่าเตียน(ข้ามเรือ) สนามหลวง พระบรมมหาราชวัง วัดบวร (จะไปไหว้อัฐิ ร.9 แต่ไม่อยู่แล้ว) ถนนราชดำเนิน สวนหน้าโลหะปราสาท หลงทางก่อนไปร้านตรงเสาชิงช้า กินที่ 26 ยี่สับหลก Yih/sahp/luhk (จองไว้ก่อนมาด้วยนะ คือ ปั่นมากินนั่นเอง) มาปั่นรอบสนามหลวงเล่น 1 รอบ แยกย้ายกลับบ้าน กลับทางสะพานพุทธจ้า

ออกจากบ้าน เกือบ 6 โมงได้ กลับถึงบ้าน เกือบสี่ทุ่ม ปั่นแป๊บๆ จอดถ่ายรูปนานๆ นั่งกินนานๆ ปัดฝุ่นจักรยานนั่นเอง

ผู้ร่วมขบวนการ คุณชายวิคเตอร์ อู๋หมิง(ไร้นาม) เซบาสเตียน น้องนินจา ทริปนี้เป็นทริปแรกของอู่หมิง เปิดซิงกันเบาๆ

เครดิตภาพภ่าย เจ้าของคุณชายวิคเตอร์

3 นักแสดง บุ๋ม รัญญา นุ่น ศิรพันธ์ ก้อย อรัชพร ในบทร้ายๆ กับเรื่อง นาง ร้าย (กรุณาอ่านแยก เน้นเสียงเพื่อเพิ่มอรรถรส) ผู้กำกับโดย วิชย์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล และ วิชย อาทมาท ในพื้นที่การแสดงละคร จุคน เกือบร้อยคน ณ Plantoys หรือ ศูนย์วัฒนธรรมและศิลปะ แสงอรุณ

เรามาชม โดยที่ไม่รู้ว่า เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไม่มีความคาดหวังใดๆ มาเป็นกำลังใจให้ทีมงาน พบว่า มัน สนุก มากกกกกกกกกกก เล่าเรื่องราวของนางร้ายที่เราคุ้นเคย ขอบอกว่า บันทึกนี้ สปอยล์เต็มที่นะ เพราะนี่คือ บันทึกความทรงจำของการไปชมละคร

ตัวร้ายผู้บุกไปงานแต่งงานของพระเอกนางเอก จะยิงนางเอก แต่พระเอกเอาตัวมากันไว้ จึงคิดจะยิงตัวเอง (พล็อตนี้นี่ ภาพจำของนางร้ายมากๆ แต่เดียวนี้ นางเอกร้าย ก็เริ่มเยอะนะ) แต่เสียงดังปัง ปัง ปัง ก็ดังขึ้น เป็นเสียงพลุ ผู้คนหันไปให้ความสนใจกับพลุแทนนางร้าย 555 คร่ำครวญที่ไม่มีใครสนใจ แล้ว นางร้าย ก้อย ก็ออกมาในชุดแดงเพลิง ยื่นชุดให้เปลี่ยน ตวาดใส่ บุ๋มก็เปลี่ยนแบบจำยอม แล้วก็ถามว่า ที่สั่งให้ไปทำมาเป็นอย่างไรบ้าง อีกหน่อยคุณพระจะได้กลับมารับเธอกลับไป แล้วนางร้ายบุ๋มก็ปฏิเสธไม่ทำตามที่สั่งเลยโดนตบสั่งสอน แต่อิ่ม (นางร้ายบุ๋ม) ก็ลุกขึ้นสู้ ตอบโต้ ก็สู้กันไปมา แล้วก็มีวิญญาณสาวในชุดขาวลอยออกมาในรถเข็นของ 555 นางร้ายนุ่นออกมาแล้ว เล่นเอา นางร้ายก้อยเสียสติ วิ่งหนีไป ขณะที่นางร้ายบุ๋มก็พยายามมองหาก็มองอะไรไม่เห็นเลยออกจากห้องไป

แม่นางชุดขาวนุ่น ถอดชุดออกเผยเป็นชุดสาวจีนสีชมพู ยืนแต่งหน้า เตรียมตัวจะออกจากบ้าน แม่ใหญ่บุ๋มก็เดินออกมาทักว่า อาหลิว จะไปไหน ได้คำตอบว่า จะไปดูงิ้ว เสียดสีพร้อมเผยท่าทีรู้ทันว่า จริงๆ รู้นะว่า จะไปไหน แล้วก็เฉลยออกไปว่ารู้นะ ว่ามีชู้ พร้อมกับบังคับให้อาหลิวเอายาไปชงให้แม่รองที่ท้องอยู่ทาน จากนั้น อาหลิวเปลี่ยนชุดเป็นสาวทำงาน ปะทะกับ เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องหัดร้าย ตอนนี้ดูอินกับยุคปัจจุบัน เรื่องมันดร่าม่า จริงจังนะ แต่ก็มีความขำเสียดสีตัวละครอยู่ด้วย (ขำรุ่นน้องหัดร้ายมาก มีพึมพำ พยายามจะร้ายตามที่รุ่นพี่สอนด้วย โดยเฉพาะ กรี๊ดแบบเสียงดังจัดๆ นุ่นกรี๊ดได้ใจมาก)

จากเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องหัดร้ายแปลงเป็นหญิงจิ๋วผู้ใสซื่อ อ่อนแอ (เหรอ) มีแม่นมคอยช่วยดูแล จิกกัดพี่หญิงเล็กใสๆ หน้ายิ้ม หญิงเล็กออกมาบังคับให้หญิงจิ๋วสละบ้านจิ๋วและด่าทอที่แย่งชายพัชร คู่หมั้นของตน คล้ายๆ จะชนะก่อนพบว่า หญิงจิ๋วไม่ได้ขาพิการอย่างที่คิดและสู้กลับ ทำร้ายหญิงเล็ก และเผยว่า ทั้งพี่หญิงใหญ่ ทั้งหม่อมแม่ หญิงจิ๋วเองนี่แหละ เป็นคนจัดการ แล้วหญิงจิ๋วก็ขาอ่อนแรง เรื่องตลบกลับว่า แม่นมก็ต้องการสมบัติของบ้านนี้เช่นกัน และจัดการทั้งสองหญิง แต่หญิงเล็กคล้ายจะหนีไปได้ ขณะที่เดินไปรับโทรศัพท์ และเดินจากไป (ตอนนี้หักมุมแล้ว หักมุมอีก ร้ายแล้ว ก็ร้ายได้มากกว่า)

หญิงเล็กลุกขึ้นแปลงโฉมเป็นแม่นางละอองคำ รึเปล่า จำชื่อไม่ได้ นั่งบนตั่งทอง บอกตนเองเป็นผู้เหมาะสม รองนางงามสาวสยามเดินออกมาร่ายคำขวัญประจำจังหวะและประท้วงว่า ตนมีความเหมาะสมที่จะได้ตำแหน่งมากกว่า ต้องเป็นผู้ครอบครองบัลลังก์นั้น ชี้ไปที่เก้าอี้ ยื้อแย้งกันสุดชีวิต จากนั้น นักการเมืองหญิงรุ่นใหญ่เดินออกมาห้าม และแย่งเสียเอง กับวลีที่หลายๆ คนคุ้นเคยดี ดิฉันถอยจนไม่มีที่ให้ถอย ดิฉันมาจากการเลือกตั้ง ทั้งสามคนยื้อแย่งเก้าอี้กันสุดกำลัง เมามันส์มาก (ตอนชมเมามันส์ในการกระทำ พอมานั่งเขียนก็คิดว่า ความต้องการ เป้าหมายของแต่ละคนในสิ่งเดียวกัน อาจมีแรงจูงใจที่ไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างก็พยายามให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ และยังคงอยู่ในวังวนเหล่านี้ไม่มีที่สิ้นสุด)

ตัดฉากไปห้องแต่งตัวให้เห็นการแปลงโฉม จากนั้นเข้าสู่ฉากการถ่ายทำละครเรื่องน้ำตากามเทพ แบบเสียงพากษ์หนังสมัยก่อน และเข้าสู่การสัมภาษณ์ โดย นุ่น ในรายการ นู่นนี่นั่น สัมภาษณ์ก้อย นักแสดงสาว และ บุ๋ม ผู้กำกับหญิง มีทั้งเรื่องจริง เรื่องแต่งอยู่ในบทสัมภาษณ์ เล่นกับคนดูให้เป็นผู้ชมในห้องส่อง จิกกัดกับคนให้คิวเสียงปรบมือ เสียงกรี๊ดที่ไม่ได้อารมณ์เลย การตัดต่อให้ได้ในส่ิงที่ต้องการ (สะท้อนให้เห็นความลวงในสังคมบันเทิง)

ช่วง Talk กับ ความในใจของ บุ๋ม รัญญา เห็นว่า ในแต่ละรอบจะเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ แม้จะคนเดียวกัน เรื่องที่เล่า ก็อาจจะไม่เหมือนกัน ประเด็นของพี่บุ๋มในวันนี้คือ ใครจะพูดถึงอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ก็ช่างมัน ต่อให้เป็นเรื่องจริง ก็ช่างมัน

ละครเรื่องนี้ เกินความคาดหมาย สนุกด้วยความเป็นโรงเล็ก เนื้อหาเข้มข้น แม้จะมีมึนๆ งงๆ บ้างในช่วงสัมภาษณ์ แต่ภาพรวมก็ชอบมากกกก เป็นกำลังใจให้ทีมงาน และ ทีมนักแสดงค่ะ นักแสดงทุ่มกันสุดตัว พลังส่งมาเต็มมาก ยิ่งเรานั่งแถวหน้าสุด ยิ่งฟิน

ชอบจริงๆ ที่บอกว่า ละครแบบนี้ไม่ค่อยมีให้เล่น เดี๋ยวนี้มีแต่ มิวสิคัล ซึ่งก็จริง

ละครพูด ละครโรงเล็ก ละครเพลง ละครโรงใหญ่ ต่างก็มีเสน่ห์ ลองเปิดใจรับฟังรับชมกันดูนะคะ

สถานที่ ศูนย์วัฒนธรรมและศิลปะ แสงอรุณ

วันอาทิตย์ 3 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 16.00 น.

ระยะเวลา 1.45 ขั่วโมง

ผู้ร่วมขบวนการ พี่กั้ง เกด แม่เกด

บัตรราคา 1000 บาท

กลับมาอีกครั้ง กับ คอนเสิร์ตในโปรเจค 50 ปี ของ บอย โกสิยพงษ์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 เป็นตอนสุดท้าย เราติดตามมาทุกครั้ง ได้ฟังเพลงตั้งแต่อัลบั้มแรกๆ จนอัลบั้มล่าๆ ในภาคปิดนี้ คุณบอยจัดเต็มแบบคิดว่า อาจจะไม่ได้จัดคอนเสิร์ตแบบนี้อีก ทุ่มสุดตัวเลยจ้า เราว่า เป็นคอนเสิร์ตที่ลงตัวในทุกๆ ทาง ทั้ง ดนตรี เสียงร้อง โชว์ อารมณ์ ความหลากหลาย และการพูดคุย

เปิดคอนเสิร์ตด้วยเพลงจากอัลบั้ม Million ways to love ไล่เรียงกันมาทั้งอัลบั้ม เริ่มที่ ใคร – ดีใจ ใจดี และ ป๊อด เราเข้ามาสาย มาก็จะจบเพลงละ ผมแอบชอบคุณ – นภ คนข้างล่าง – เบน พอ – น้อย/นาเดีย แอบเพี้ยนเล็กๆรึเปล่า นานแค่ไหน – บุรินทร์ ต่างมุม – โป้ Who what when where why – เค้ก ร้องโดยนั่งบนแท่นลิฟท์เลยจ้า หัวใจผูกกัน – บอย พีซเมกเกอร์ ภาพงานแต่งงานของบอยกับเจี๊ยบ พร้อมบอกว่า ผมร้องเพลงนี้ครั้งแรกที่นี่เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ล้มบ้างก็ได้ – เบน/นภ Live and Learn คุณกมลา จัดเครื่องแต่งกายมาเอง น้อยมาแจมด้วย คราวที่แล้วมาเป็นป้า ครั้งนี้เป็นย่า หลาน 8 คน ปีนี้ 82 แล้ว เล่าที่มาของเพลงนี้อีกครั้ง บอยรอแม่มาร้องเพลงนี้ถึง 2 ปี บอกว่า เพลงนี้ไม่ใช่คนแก่ร้อง แต่ต้องการคนที่มีประสบการณ์ จากนั้นก็โปรโมทอัลบั้มใหม่ของน้อย และเพลงคู่ที่ร้องร่วมกัน ในเพลง ฉากจบที่ยิ่งใหญ่

พี่บอยบอก คอนนี้ยังมีอีกหลายโชว์ เป็นโปรเจคจบ ก็อยากให้ดูจนหยดสุดท้าย แนะนำน้องๆ กลุ่มนี้ มาเล่นในคอนนี้เมื่อ 16 ปีที่แล้ว จากนั้น น้องๆ ก็ค่อยๆ ดัง ส่วนผมก็ค่อยๆ เฟด 555 ฺ B5 มาแล้วจ้า เริ่มกันที่ โต๋ เปียโนนำมาก่อนเลย ลมหายใจสั้นๆ คนไม่พิเศษ และรวมมิตรอีกหลายเพลงร่วมกับเพื่อนๆ ลมหายใจ รักคุณเข้าแล้ว ภาพเก่าๆ ฉันจะทำทุกๆอย่างให้เธอมีความสุข (คิว+นภ) ดาว (คิว มาเรียน) เก็บดาว (มาเรียม+เบน) ตัดสินใจ (คิว+นภ) ต่อด้วยเพลงจาก Rhythm & Boyd Eleventh คำถามโง่ๆ จะทำยังไง สีเทา ที่ฉันรู้ ฉันดีใจที่มีเธอ สลับกันร้อง ร้องด้วยกันบ้าง ร้องคู่บ้าง ช่วง B5 เพราะจริงๆ

ต่อไปเป็นช่วง Rich Entertainment โชว์แรกก็สุดแล้ว รัดเกล้า ณ เวทีเล็กตรงกลางฮอล์ล กับเพลง มหัศจรรย์แห่งรัก ต่อด้วย ใจต่อใจ Effect กระจาย มีบินด้วยจ้า โหนสลิง ตีลังกาอย่างพริ้วเลย พี่บอยออกมาแบบใช้สลิงด้วย โดนแซวว่า ดูมีความสุขนะ พี่บอยบอก จะมีความสุขกว่าถ้าได้ใส่ชุด Iron Man ด้วย จงลง จงลง พูดเสียงสั่นเลย ครั้งนี้ ไม่ Cheap แต่เจ็บ พูดคุยกับรัดเกล้า รัดเกล้ารู้ตัวก่อนหน้าไม่กี่วันว่า ต้องร่วมโชว์ด้วย ทั้งที่เจ้าตัวก็พยายามถามแล้วถามอีกว่า มีคิวของตัวเองไหม สุดยอดกับโชว์นี้ที่ใช้เวลาไม่กี่วัน แล้วก็โปรโมทคอนเสิร์ตเดี่ยวของรัดเกล้า มีเล่น เดือน ต.ค. ที่ Icon Siam จ้า

บอยบอก ตอนเราทำ Cheap คนดูก็ลุกไปฉี่ คราวนี้เลยทำ Rich ให้รู้ว่า รวยก็เป็นนะ แล้วก็อวยตัวเองว่า ทำอาหารสดๆ กินอร่อยกว่า อ้างอิงถึงการเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน ทุกชั่วโมง ดูโชว์เราก็ต้องอดทน ยังไม่ทันเป็นนิ่วหรอก

คู่พี่น้อง S&P กับเพลงประกอบละครจินตปาตี เธอผู้เดียว พี่บอยเดินออกมา ใส่ชุดคนละชุดกับนภ ก็ออกตัวว่า ผมผิดคิวเองครับ ว่าแต่ ทีมงานไม่ท้วงเหรอ เพลงนี้ผู้ร้องแต่งให้ภรรยาในงานแต่งงาน เราได้เจอกันตั้งแต่อนุบาล ส่งนักร้องเข้าเวทีไป ก็หันมาชี้ตัวเองกับนภว่า นี่คือ ตัวอย่างของ Rich และ Poor ครับ 555

ช่วงต่อไปเป็นช่วงซึ้งๆ หน่อย เพลงนี้ทำให้ Million way to love ได้เจอกับสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน เหมือนเคย คอนแรกนิชคุณมาร้องให้ ต่อมา พี่ตูน ครั้งนี้ อาต้อย เศรษฐามาร้องเอง เจ้าตัวบอกว่า เจ็บใจมาก 2 ครั้งที่ผ่านมาก็ไม่เชิญผม จนผมต้องโทรมาถามเอง ว่าจะมีผมไหม พอให้ผมมายังมีติ๊ก เจษฎาภรณ์ มาประกบอีก จะฆ่าผมให้ตายเลยเหรอออออ แต่ แต่ เสียงกรี๊ดตอนพี่ติ๊กออกมาช่วย Rap พูดนี่ ดังมากกกกกกก พี่ิติ๊กมี Tie in Navigator ด้วย แล้วพบกันใหม่กับ เนวิเกเตอร์

เข้าช่วงสมาคม คนรักเมีย ช่วงนี้จะว่าน่ารักก็ได้ แต่ก็มีแอบ Drop ๆ ไปบ้าง รวมหนุ่มๆที่แต่งงานแล้วทั้งหลายมาร่วมร้องเพลงกัน บอยก็โดนดึงมาด้วย เพลงนี้เคยร้องกันเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ต้องไปหาเนื้อกันมา แกะกันใหม่ ในเพลงคนรักเมีย คุยเรื่องอะไรกันต่อไม่รู้ มาได้ความว่า แต่ง ลอยทะเลเสร็จภายใน 3 วัน เพราะงานเร่ง ตอนนั้นค่ายใหญ่เค้าก็วิเคราะห์กันว่า เด็กพวกนี้มันต้องมีวิธีการอะไร จริงๆ แล้วไม่มีอะไร จนทุกวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม

ช่วงนี้เป็นช่วงเอาใจคนโสด กับ Acoustic Entertainment

ฮอร์โมน – ธี ไชยเดช เวอร์ชันนี้เพราะมากกกกกก มาแบบ Blue เก๋ๆ เลย ต่อด้วย หวานขม ป๊อดและเศรษฐามาร่วมแจม ช่วงที่ดีที่สุด นิชคุณมาแจมด้วยจ้า พี่บอยเดินมาขอบคุณ ใส่เสื้อถูกด้านแล้ว มีแวบนึงใส่กลับด้านออกมา

ในช่วงต่อไปเป็น Dance ละ อย่าให้อายุของคุณทำลายโอกาสที่คุณจะได้ปลดปล่อยนะครับ

Hits Entertainment

TK – อยู่นานๆ อีกนิด ผ้าเช็ดหน้า คิว – กันและกัน ฤดูฝน บุรินทร์ – Hormone อย่าปล่อยให้เธอเดินผ่าน เธอทั้งนั้น นภ – เผลอ นายมาแจมด้วยจ้า เต้นเบาๆ มาโปรโมทหนังด้วย ร้องเพลงหยุดต่อ นภ+ป๊อด Season Change เพลงนี้เหมือนจบ แต่ยังไม่จบ บอยบอกทุกคนทำดีมากที่ไม่เดินออก ว่าแล้วก็ขอบคุณทุุกคน ปิดคอนเสิร์ตไตรภาคอย่างเป็นทางการ แต่ก็ยังไม่จบอยู่ดี อัญชลีมากับเพลง รัก อย่างเท่ อาศัยความอาวุโส จะทำอะไรก็ได้ บอกว่า ทุกคนที่ร้องเพลงพี่บอยดูดีทุกคน แถวหน้ายิ่งดูดีทุกคน ได้พูดแล้ว สบายใจแล้วค่ะ

Pass the Love Forward และ เพลงรัก แอบเห็น นาเดียขอ Selfie กับนิชคุณด้วย ก็ Selfie กันเต็มเวทีเลยแหละ และร้องใคร เพลงแรกของคอนเสิร์ตให้ฟังอีกครั้งด้วย

เป็นอันจบคอนเสิร์ตไตรภาคของ บอย โกสิยพงษ์ฉลองครบรอบ 50 ปี เราไปชมทั้ง 3 ครั้ง มีความสุขทั้ง 3 ครั้ง

อิมแพค อารีน่า

วันเสาร์ที่ 2 ก.พ. 2562

ผู้ร่วมขบวนการ 3 ก

บัตรราคา 2000 (1500)

คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่สองของ 4 โพธ์ดำ ครั้งแรกเป็นคอนเสิร์ตเปิดตัวเล่นที่รัชดาลัย เธียเตอร์ หลังจากสั่งสมประสบการณ์กว่า 6 ปี 4 โพดำก็ได้มีคอนของตัวเองบนเวทีใหญ่ ความจุ 5000 คน มาในรูปแบบ สีขาวๆ บ้าง ไม่อย่างนั้น ทุกครั้งที่ได้ขึ้นจะสีดำตลอด มีการแสดง 2 รอบ เราดูรอบแรก เวลา 19.00 น. เริ่มจริง19.20 น.ได้ นั่งดู VTR โปรโมทคอนอื่นๆ วนไป โปรเจค คลาสเซตเทป

4 โพธ์ดำ เปิดตัวกันแบบอลังการงานสร้าง ด้วยเพลง chandelier เริ่มด้วย โดมกับแท่นลิฟท์ กัน มาด้านข้าง ตั้มเดินมาจากกลางเวที แก้มอยู่บนฉากเลย นอนอยู่แล้วฉากก็ค่อยๆ เอนลงมาให้เห็นแก้ม มาแบบเท่สุดๆ แดนเซอร์เต็มเวที

ทั้ง 4 คนพูดถึงว่า แต่ละคนคือเทพอะไรบ้าง แซวกันตามระเบียบ โดม King of God หรือ ซุส โดมโดนแซวว่า เป็นงูเหลือมกินไก่งวง ที่แขนมีปีกด้วย ตั้ม เป็นเทพแห่งความสนุกสนาน คือ เทพ โพธิ์งาม นั่นเอง กัน เดินไปมา โบกไม้โบกมือ ทำเท่ โดนไปว่า เป็นเทพแห่งการเดิน กันบอก ผมไม่ต้องทำอะไร ผมคือ เทพแห่งความรัก มีหน้าที่มอบความรักให้กับทุกคน ตั้มขัดขึ้นมา ผมก็บอกพี่แล้ว ให้รักทีละคน อย่ารักทุกคน ส่วนแก้มบอก ไม่ต้องพูดเยอะ หนักคอ เราคือ วีนัส ตั้มเสริมทันที วีนัส วิลเลียม ยังขอภาพขึ้นจอด้วย แต่ไม่มี ก่อนตบท้ายว่า คนดูก็เป็นเทพ เทพแห่งการเผื่อแผ่ ทำบุญร่วมกัน

กันเล่าที่มาของ 4 โพธ์ดำว่า เกิดขึ้นเพราะโรงละครว่าง พี่บอยก็เลยจับ The Star มาทำคอนเสิร์ต มี กัน โดม แก้มแล้ว ตอนนั้น ตั้มเพิ่งได้แชมป์มาพอดีเลยเอามารวมด้วย ตั้มอวยว่า พี่บอย เปรียบเหมือน พ่อ Gad Father สร้าง 4 โพธ์ดำกับมือ สร้างรายการ แล้วก็จบด้วยมือตัวเองอีกเช่นกัน (ดูจิกกัดเรื่องจบรายการเหลือเกิน ต้องทำใจนะ รายการอยูช่อง one เปลี่ยนกันตลอดเวลา)

มาฟังเพลงกันต่อ แบบร้องคู่ กัน+แก้ม: ต้องโทษดาว กัน+ตั้ม: Lost Star เล่นกีตาร์คู่เลยจ้า ตั้ม+โดม: ลาลาลอย ( The Toys) โดม+แก้ม: Counting Stars (OneRepublic)

VTR King of God – โดม จุดแข็ง น้ำหนักตัว จุดอ่อน ความดัน God of Comedy – ตั้ม จุดแข็ง แต่งหญิง จุดอ่อน เพลงสากล God of Love จุดแข็ง หล่อ เป่าขลุ่ย จุดอ่อน หญิงสาว หมวย ขาว God of Beauty จุดแข็ง เสียง จุดอ่อน แดน วรเวช 4 โพดำมากับเพลง เธอกลับมาเพื่อหมุนเข็มนาฬิกาให้เดินกลับหลัง Single ใหม่ในนาม 4 โพดำ ยืนประจำจุดบนแท่นลิฟท์ 4 แท่น พอเข้าช่วงร้องเดี่ยวใครร้องเพลงอยู่ก็จะยกแท่นสูงกว่าคนอื่น ตั้ม – จะรักจนกว่าจะรู้ กัน – หนึ่งในพันล้าน โดม – คำอธิษฐานด้วยน้ำตา แก้ม – ไม่มีเธอ ไม่ตาย มาเต็มมากกับเพลงนี้ แม้จะร้องอยู่บนแท่น ช่วยแรพโดย 3 หนุ่ม

ต่อเนื่องกันด้วย VTR ละครเมีย 2018 นำเสนอ Queen B พี่บีน้ำทิพย์ ในเพลง ไม่ยากหรอก สวย เซ็กซี่กับชุดสีเงินระยิบระยับอกลึก ท่าเต้นสุด Sexy 4 โพธ์ดำมาแจมกับลุคขาวดำเท่ๆ เต้นแนบชิดกันมาก

ช่วงพูดคุย ตั้มกับกันเสียอาการมาก เข้าหาและเขินพี่บีกันตลอด ช่วยซับเหงื่อบ้าง บิดตัวเขินอายบ้าง เป็นเด็กน้อยกันไปเลย โดยเฉพาะกัน ตั้มบอก กันใช้มุกเป็นเด็กสุพรรณ เด็กบ้านนอก บ่อยมากกก ในการชื่นชมพี่บี ขณะที่กันก็ขัดตั้มตอนใช้มุกเป็นสาวแตกเพื่อใกล้ชิดหญิง แก้มขอให้พี่บีพูดถึงแต่ละคน กับโดม น่ารัก น่าหยิก น่าหยอก กับแก้ม สวย เก่ง เสียงดีมาก ตั้ม ไม่แน่ใจว่าจะให้เป็นลูกชายหรือลูกสาว ตั้มบอก แบบนี้ต้องคุยกันยาว ต้องขอไลน์ กัน – เป็นได้ทั้งแฟน ทั้งคนรู้ใจ แล้วก็จับมือกัน ตั้มร้อง มือ มือ มือ พี่บีบอก พี่จับไว้เอง กันอย่างเขินเลย จากนั้น 4 โพธ์ดำมอบเวทีให้พี่บีได้ร้องเพลง แค่กระจกกั้น พี่บีบอกว่า ตั้งแต่ออกเทปมา ไม่เคยได้เล่นคอนเสิร์ตเลย ขอบคุณสำหรับโอกาสนี้

เข้าช่วงร้องเดี่ยว ครองเวทีคนเดียวของแต่ละคนแล้ว เปิดด้วย ตั้ม แต่งหญิง สีชุดแจ๋มมาก ชมพูสดจ้า มาเล่าถึง การแต่งหญิง การทำตลกให้คนหัวเราะที่หลายๆคนชื่นชอบ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ชอบ รวมถึงคนที่รู้สึกดีๆ ด้วย ที่เค้ารู้สึกอับอายกับความตลกของเรา ดึงดรามาเลย กับเพลง ติดตลก (โอทย์ ปราโมทย์)

กัน 2019 #โตแล้ว Sexy ได้ มาในลุคชุดอกลึก สาวๆ รุมล้อมเลยจ้า ในเพลงซ่อนกลิ่น เวทีฉาบสีแดง ร้องไปสักพักกระชากเสื้อ โชว์ท่อนบนเปลือยกันเต็มๆ นัวเนียแนบชิดกับแดนเซอร์สาวกันกว่าครึ่งเพลง เอาให้เต็มที่

โดม พูดว่า เคยรู้สึกไร้ค่าเพราะคำพูดคนอื่นไหม พูดถึงเรื่องที่เราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ตอนนี้เรียนรู้แล้วว่า เราต้องภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง ในเพลง This is me เชิญ คนตาบอดขึ้นมาร่วมแจม กรีดร้องกันอลังทีเดียว

แก้ม มาในเพลง Born this way มาแนวคล้ายๆ โดม เชิญ Drag Race Thailand สาวประเภทสองมาร่วมแจม ร้อง เต้นกันให้สุด

VTR เพลงประกอบละครกว่า 200 เรื่องของค่าย exact เปิดตัวแขกรับเชิญกลุ่มต่อไป B5 ที่ไม่มีโต๋ เบน คิว มาเรียม และ เค้ก ในเพลง บัลลังก์เมฆ แจมกับ 4 โพดำ เพลงนี้เห็นชัดว่า พลัง B5 สุดๆ จริงๆ จากนั้นเข้าซีนร้องคู่ เค้ก +ตั้ม – ยามเมื่อลมพัดหวน มาเรียม+กัน – จุดนัดฝัน เบน+โดม – ล่า คิว+แก้ม – รักเธอมากกว่า ประกอบ รักในร้อยแค้น เพลงนี้จากเสียงหวานใสของพี่นุสบา มาเป็นเสียงหวานพลังแฝงของคิวแก้ม ฆ่ากันให้ตายไปเลย ปิดท้ายด้วยเพลง ตะกายดาว ในแบบอะคาเปล่า เป็นช่วงที่ฟินสุดๆ กับเสียงเพลง การพูดคุยกันก็เฮฮา ตั้มเกรี้ยวกราดจัดเต็มกับพี่ๆ มาก มุกออกมาจนเบนต้องถามว่า ทำไมเกรี้ยวกราดจัง

ตั้มบอกว่า นี่คือต้นแบบที่เราใฝ่ฝัน ขอบคุณที่มาร่วม Battle ด้วย เบนถาม นี่ battle เหรอ นึกว่ามาร้องสบายๆ นี่ก็แต่งตัวสบายๆ ตั้มแซว แหม ชุดจัดเต็มที่สุด ลายก็ไม่เหมือนคนอื่น นี่สบายแล้วเหรอ ก็หัวเราะกันไป เบนขอบคุณ 4 โพธ์ดำที่เชิญศิลปินน้องใหม่ 4 โพแดงมาขึ้นคอนเสิร์ต เบนบอก ตอน โดมคู่กับเบน เหมือน 10 ปี Challenge ของ Facebook เลย เคยร้องด้วยกันด้วย เสื้อที่โดมใส่เบนก็มีที่บ้าน พูดถึงเพลงที่ร้องก็บอกว่า เป็นผู้ล่า ไม่เคยเป็นเหยื่อ หุ่นแบบนี้เป็นเหยื่อได้ด้วยเหรอ เจ้าตัวเล่นตัวเอง

ตั้มพูดถึงเค้ก ที่ดูจะห่างหายไปจากวงการที่สุด ถามว่า ได้มาสดๆ เป็นไงบ้าง เค้กบอก ชอบสดๆ (เค้กตอบจริงใจ แต่ตั้มพูดเสริมลากพาไปเรทมาก) ตั้มยังพาไปแซวคิวต่อ บอกว่า คิวเป็นไอดอลของผมมาก มีการร้องที่เนียนมากๆ จำเนื้อไม่ได้ ใส่อักษร อ เข้าไปเลย แก้มยังช่วยซ้ำว่า พี่คิวไม่ตรงคิวอีกต่างหาก วันนี้เหมือนมาให้ 4 โพธ์ดำแซว มีเพียงเบนที่ตอบโต้ เบนเฉลยว่า หลายๆ คนอาจสงสัยว่า ทำไมเบนพูดมาก ผมพูดแทนเพื่อนๆ ครับ ไม่เชื่อลองคุยกับมาเรียมดูสิ มาเรียมยกไมค์ ทำสีหน้าเหรอหราพร้อมเอ่ยได้แค่ว่า อ่า 555 ให้ที่เหลือเค้าร้องเพลงไปเถอะ ปิดท้ายกับ 4 โพธ์แดงด้วยเพลง เสียดาย (เสียดายจริงๆ นึกว่าจะได้ฟังเพลงของ B5 ด้วย)

มาแล้วจ้า 4 โพธ์ดำการละคร ณ บ้านหนองนางเดียว ว่ากันด้วยเรื่อง วันแต่งงานของขจร (กัน)กับมะลิ (แก้ม) ขจรมาพร้อมกับขบวนแห่ โดดเดี่ยวเดียวดาย อุ้มกลอง ลากขบวน ภายใต้ธีม อยากให้มีเฉพาะคนสนิท เลยพึ่งรู้ตัวว่า ไม่มีคนสนิทเลย จนจ้อย หรือ ไอ้จ๋อย (ตั้ม) แต่งหญิง ชุดไทย เข้ามาบอกว่า จะมาช่วยงานนั่นแหละ สองคนแต่งชุดไทย แซวตัวเองว่า เหมือนจะไปงานอุ่นไอรัก คุยกันว่าอยากจะมีลูกชาย หรือ ลูกสาว ขจรอยากมีลูกชาย จะได้เป็นเพื่อนเล่นกัน จ๋อยถาม อ้าว ไม่อยากมีลูกสาวเหรอ อ๋อ กลัวว่าลูกจะเจอคนไม่ดี ขจรของขึ้น มาว่า ว่าไม่ดีเหรอ จ๋อยรีบปฏิเสธบอก ไม่ใช่ พี่นะ ดีเกินไป (เหมือนจะมุกแซวเรื่องส่วนตัว)

มะลิเปิดตัว มะลิมาแล้วจ้า กับเพลงประจำตัว ไหง่ง่อง (ตั๊กแตน ชลดา) พบเจอกัน ขจรกับมะลิก็หยอกล้อ ผลักกันไปมา หลังๆ เริ่มผลักกันแรง ผลักจริงผลักจนโกรธกัน ร้อนถึงจ๋อยต้องเข้ามาห้าม แล้วรีบตามหาปลัดให้มาช่วยจดทะเบียนสมรส ปลัด (โดม) มากับเพลง แค่แขกรับเชิญ เดินเข้ามาเจอจ๋อยในชุดจัดเต็ม พร้อมขนตาแวววาวมีสะดุ้ง จ๋อยถาม ปลัด ตกใจอะไรขนาดนั้น นี่ไม่ใช่กระจก (ยัง ยังกล้าแซวคนอื่น) ปลัด มาประกาศก้องว่า วันนี้ มะลิกกับขจรยังแต่งงานกันไม่ได้ เพราะจะต้องไปประกวดนางงาม ลงชื่อไว้ให้แล้ว มะลิได้ยินก็ตาวาว หันไปหาขจร ขจรบอก ไม่ได้ ผมยังไม่พร้อม (จะไปประกวดเองซะงั้น) มะลิจิกตาใส่ พูดสียงจิกกัดว่า ดูอยากแต่งหญิง จ๋อยรีบห้ามด้วยความจริงใจว่า อย่าเลยเดี๋ยวติด 555

ณ งานประกวดเวที ปลัดให้ซีนมะลิเดินโชว์ตัว พอถึงคิวจ๋อย ไม่ให้เดินแล้ว ให้เข้าช่วงสัมภาษณ์เลย ตอบคำถามกัน ขจรเตรียมคำตอบให้มะลิเสร็จสรรพเลย ส่วนจ๋อยก็ช่วยเหลือตัวเองไปนะ ปรากฏว่า จ๋อยชนะ ได้รับตำแหน่ง นางสาวมิจฉาชีพไปครองพร้อมมงกุฏธรรมดา ขณะที่มะลิร้องไห้สะอึกสะอื้นกับขจร อยากได้มงกุฎ แย่งซีนจ๋อยสุดๆ ขจรเลยหารางวัลปลอบใจมาให้มะลิ เป็นมงกุฏเพชรอันใหญ่มาสวมให้ ไฟสาดส่อง ได้ซีนมากกกกก ส่วนจ๋อยอยู่ในมุมมืด 555 ว่าแล้วก็ัทำพิธีแต่งงาน จดทะเบียนสมรสกันที่งานประกวดเลย เชิญปลัดมาเป็นผู้ใหญ่ ปลัดปฏิเสธ บอก ผมเป็นปลัดนะ ไม่ใช่ผู้ใหญ่ (จ้า มุกนี้ก็ยังกลับมา) ปลัดเชิญทุกคนร่วมอวยพร ให้คนดูร่วมด้วย ลุกขึ้นแล้ว กล่าวตาม ยายมีเลี้ยงหอย ยายมอยเลี้ยงหมี …. พาเข้าช่วง Dance (เป็นแผนที่ดีที่ให้คนลุก แต่ทิ้งห่างไปนิด คนก็ทยอยนั่งไปละ) ขอให้รวย สั้นๆ ตามด้วย สาละวัน หมากัด และ เต่างอย

VTR ภาพสมัยประกวดของทุกคน 4 คนกลับมาในชุดขาวตามโปสเตอร์ ขอบคุณทีมงาน ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณกันเอง หนุ่มๆ มีท้าพนันกันไว้ ห้ามร้องไห้ แก้มบอกไม่เห็นรู้เรื่องเลย พร้อมใจกันบอก ก็รู้ว่าพี่แก้มร้องอยู่แล้ว ไม่อยากให้เสียพนันไง ซึ้งๆ กันไป กับครอบครัว 4 โพธ์ดำ กอดกันกลม น้ำตาซึม ปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลง ขอบคุณกันและกันhttps://www.youtube.com/watch?v=tk1GAFXttwE มีโปรเจค เปิดไฟในเพลงนี้ มีทั้งหมด 4 สี ก็ร่วมด้วยช่วยกันเสริมบรรยากาศอย่างพร้อมเพรียง

เพลงเพราะ แขกรับเชิญเด่น โปรดักชันจัดเต็ม กับเวลากว่า 3 ชั่วโมง ช่วงเวลาดีๆ กับแชมป์ The Star ทั้ง 4 รุ่น

สถานที่ Paragon Hall

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2562

บัตรราคา 2000 บาท

ผู้ร่วมขบวนการ พี่สาว แม่ และญาติๆ ที่นั่งกันคนละแถว แต่มีถ่ายรูปเรากลับมาให้ดู



Categories